![]() |
ฉลากบนแผ่นไวนิลดำหรือแผ่นเสียงที่มีตราของ RCA Victor และโลโกนิปเปอร์พร้อมกับวลี His Master's Voice |
ผมคุ้นเคยกับโลโก้หมานั่งหน้าเครื่องเล่นแผ่นเสียงมานาน
น่าจะตั้งแต่เป็นนิสิตปีแรกๆ เห็นจากหน้าปกตลับเทปเพลงค่าย RCA ก็แค่โลโก้ธรรมดา เมื่อผมมาเล่นแผ่นเสียงเป็นงานอดิเรก ผมพบว่าแผ่นเสียงเก่าที่ผมซื้อมาฟังเป็นแผ่นของค่าย
RCA ถึงหนึ่งในห้า
รวมถึงผมเห็นเครื่องหมายหมาน้อยบนเครื่องเล่นแผ่นเสียงยี่ห้อ Victor และยังมีปรากฏบนอุปกรณ์ บนแผ่นเสียงค่ายอื่นอีกด้วยที่ไม่ใช้ RCA เช่น Berlin Grammophone, EMI, JVC, Victor Talking Machine และอื่นๆอีกมากมาย
![]() |
ฟรานซิส บาร์โร็ด ผู้เขียนภาพ from: thevintagenews |
![]() |
ภาพแรกที่ฟรานซิสวาด เป็นเครื่องเล่นเอดิสันเบลล์ และปากลำโพงเป็นสีดำ from: thevintagenews |
ตำนานของเครื่องหมายนี้มีอยู่ว่า นิปเปอร์ Nipper เป็นสุนัขของนายมาร์ค เฮนรี่
บาร์โร้ด Mark
Henry Barraud อาศัยอยู่ที่เมืองบริสตอลตอนกลางของประเทศอังกฤษ นิปเปอร์เป็นมหาลูกผสมแจ๊ครัสเซลเทอร์เรีย
มีนิสัยซุกซนมาก ชอบงับ nip หยอกส้นเท้าของผู้คนจึงได้ชื่อว่านิปเปอร์ นายมาร์คเกิดตายลงในปี 1887 น้องของเขาสองคนคือ ฟรานซิสและฟิลลิป บาโร้ด
ที่อาศัยอยู่เมืองลิเวอร์พูลเลยนำนิปเปอร์ไปเลี้ยงด้วยที่นั่น เลี้ยงจนนิปเปอร์แก่ตายในปี 1895 เวลาล่วงไปอีกสี่ปีนายฟรานซิสเกิดแรงบันดาลใจเขียนรูปนิปเปอร์นั่งอยู่ข้างหน้าเครื่องเล่นแผ่นเสียง
หน้าตาแบบเดียวกับเครื่องเล่นที่บ้านรุ่นเอดิสันเบลล์ เขาจินตนาการว่าได้อัดเสียงของมาร์คไว้
และนิปเปอร์กำลังตั้งใจฟังเสียงของนายผ่านลำโพงพร้อมกับตั้งชื่อภาพว่าเสียงของเจ้านาย
His Master’s Voice ผ่านไปหนึ่งปีนายฟรานซิสก็ขายรูปไม่ออก
มีบางคนติงว่าก็หมามันไม่ฟังแผ่นเสียงไง แต่เรื่องมาหักมุมที่ว่า
เขาคิดจะวาดอีกภาพหนึ่งแต่ใช้เครื่องเล่นแผ่นลำโพงทองเหลืองขัดเงาจึงได้ไปหายืมเครื่องที่บริษัทแกรมโมโฟน
Grammophone
ไปพบผู้จัดการที่นั่น เขาแนะนำว่าให้ใช้เครื่องเล่นของบริษัทเบอร์ลินเนอร์ ดิสค์
แกรมโมโฟน Berliner Disk Grammophone เป็นตัวอย่าง แล้วจะซื้อรูปนั้น นายฟรานซิสจัดการวาดรูปดังกล่าวออกมาและขายให้กับบริษัทแกรมโมโฟนของอังกฤษ
รวมถึงวลี His Master’s Voice ในราคา 100 ปอนด์ (ประมาณ 10,800 ปอนด์ในปี 2018) ครึ่งหนึ่งเป็นค่าภาพ
อีกครึ่งหนึ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์ องค์ประกอบของภาพถูกจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่
10 กรกฎาคม ปี 1900
![]() |
ภาพที่เขาขายลิขสิทธิ์ให้แกรมโมโฟน เป็นเครื่องเล่นแบบเบอร์ลินเนอรื ดิสค์ แกรมโมโฟน ปากลำโพงเป็นทองเหลือง from: thevintagenews |
ทำไมรูปนิปเปอร์จึงใช้ในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้อย่างกว้างขวาง เหตุผลแรกคือบริษัทเบอร์ลินเนอร์ ดิสค์ แกรมโมโฟน
ไปเปิดบริษัทแกรมโมโฟนในอังกฤษเพื่อทำตลาดและขายเครื่องเล่นแผ่นเสียงมือหมุนของตนเอง ก่อนหน้านั้นเขาพยายามบุกตลาดนิวยอร์คแต่ไม่ประสพผลสำเร็จ แกรมโมโฟนภายหลังได้ควบกิจการกับบริษัทคู่แข่งสำคัญจากอเมริกาคือโคลัมเบียแกรมโมโฟน
แล้วจดทะเบียนในชื่อใหม่ว่า EMI Electric and Musical Industry Limited เราจึงเห็นโลโก้ EMI และหมานั่งมองเครื่องเล่นบนหน้าปกแผ่นเสียงของ EMI จากอังกฤษ
และที่อีเอ็มไอขายลิขสิทธิ์ให้ผลิตจำหน่ายในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ทางด้านเบอร์ลินเนอร์ ดิสค์ แกรมโมโฟนของเยอรมันนั้นไม่ละความพยายาม
ในที่สุดเขาก็บรรลุข้อตกลงกับบริษัท Victor Talking Machine ในนิวเจอร์ซีเพื่อแลกเปลี่ยนสิทธิบัตรและผลิตเครื่องเล่นแผ่นขายในอเมริกา ทำให้บริษัทนี้สามารถนำหมานิปเปอร์ไปใช้เป็นเครื่องหมายการค้าได้ด้วย ปี
1921 วิคเตอร์ทอล์คกิ้งแมชีนยังทำข้อตกลงกับญี่ปุ่นเพื่อผลิตเครื่องเล่นแผ่นเสียง
และเครื่องเสียงเมื่อเข้าสู่ยุคอิเลคทรอนิคภายใต้ชื่อ Japan Victor Company
หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ JVC โดยมีหุ้นส่วนใหญ่คือมัตซูชิตะอิเลคทริคอินดัสเตรียล
เครื่องเสียงยี่ห้อ Victor ที่มีเจ้านิปเปอร์จึงวางขายในญี่ปุ่น
แต่ไม่สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศ หากจะส่งออกต้องใช้ชื่อ JVC
![]() |
โลโก้นิปเปอร์บนเครื่องเล่นแผ่นเสียง |
อาร์ซีเอ
เรคคอร์ด RCA Radio Corporation of America
records เป็นหนึ่งในสี่ยักษ์ใหญ่ของค่ายเพลงในสหรัฐอเมริกา โดยมีค่ายโคลัมเบียเป็นคู่แข่งที่สำคัญ
วันดีคืนดีปี 1929 RCA เจ้าพ่อสื่อซื้อกิจการบริษัทผลิตเครื่องเล่น
Victor Talking Machine ไว้เสียเอง แล้วควบรวมเป็น RCA
Victor เครื่องหมายหมากับเครื่องเล่นแผ่นมือหมุน
พร้อมทั้งสโลแกนเสียงนาย His Master’s Voice จึงปรากฏบนฉลากแผ่นดำและหน้าปก
ปี 1986 เบอเทลส์แมน จากเยอรมันนีซื้อกิจการของอาร์ซีเอวิคเตอร์
และตั้งเป็น BMG Bertelsmann Music Group เพื่อจำหน่ายลิขสิทธิ์เพลงให้ผู้ผลิตสื่อต่างๆ ปี 2008 โซนีควบรวมเฉพาะแผนกดนตรีเป็น Sony
BMG และซื้อ BMG ไว้ทั้งหมดในสี่ปีต่อมา นี่ยังไม่นับ
HMV หรือ His Master’s Voice ที่ปรากฏอยู่ที่หน้าร้านเครื่องเสียง
บนปกและฉลากบนแผ่นดำ
เป็นเรื่องปกติที่มีการแตกยี่ห้อ
แตกแบรนด์ไปในชื่อต่างๆ เพราะฝรั่งเขาถือคำมั่นไม่ขายทับเส้นข้ามเขตแดนกัน หากจะขายในยุโรปก็ต้องใช้ชื่อหนึ่ง ขายในอังกฤษก็อีกชื่อหนึ่ง
หากตัวแทนในอังกฤษไปแตกแบรนด์ต่อเพื่อขายบางพื้นที่ของยุโรปก็ต้องใช้อีกชื่อหนึ่ง ขายในญี่ปุ่นใช้ชื่อ Victor แต่พอส่งออกเขาใช้ชื่อ JVC เขาใช้ชื่อใหม่ โลโกใหม่คู่กับโลโกนิปเปอร์เพื่อจะได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์นี้มาจากนอกเขตการค้าไม่ใช่ของตัวแทนในประเทศนั้นเอง
แต่การทำเช่นนี้เขาจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ค่าหัวคิวต่างๆให้กับเขตการค้าเจ้าถิ่นด้วย
เพราะเจ้าถิ่นเขาลงทุนเรื่องการจัดการ การตลาดไว้มากจนคนยอมรับกันไปแล้ว
ฟรานซิสได้เปิดใจในเวลาต่อมาว่า
ที่บ้านมีเครื่องเล่นอยู่และเจ้านิปเปอร์ก็เคยหูผึ่งค้นหาต้นเสียงมาแล้ว ผมจินตนาการว่าสุนัขของผมกำลังฟังเครื่องเล่นแผ่น
ด้วยสีหน้าฉงนสุดประมาณว่านี่มันเสียงของนาย ซึ่งนำมาใช้เป็นชื่อของภาพ ตลอดชีวิตที่เหลือ ฟรานซิสยังวาดภาพนี้ซ้ำๆอีก
24 ภาพ ส่วนรูปของเจ้านิปเปอร์ปรากฏในสวนสาธารณะหลายแห่ง
ในเวอร์จิเนีย และบัลติมอร์เป็นอาทิ ปรากฏเป็นรูปปั้นขนาดสี่ตันครึ่งอยู่บนหลังคาตึกในนิวยอร์ค ร้านขายของที่ระลึก เมื่อไม่กี่วันที่แล้วผมยังเห็นในเวปไทยให้ลูกค้าสั่งตุ๊กตานิปเปอร์แบบจองล่วงหน้าก็มี ใครจะไปคิดว่า หมาแจ๊ครัสเซลเทอร์เรีย
เครื่องเล่นมือหมุนของเบอร์ลิน และวลีเด็ดเสียงของนายจะขายได้มากมายขนาดนี้
และอยู่ข้ามมาถึงหนึ่งศตวรรษ
![]() |
ที่กั้นหนังสือปี 1970 มีขายกันอยู่ตามตลาดของเก่า แสดงว่าเจ้านิปเปอร์นี้ดังไม่เบา from: Etsy |
ที่มา:
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น