ผมเคยฟังเครื่องเสียงจากแอมป์หลอดที่แสนจะธรรมดา ลำโพงประกอบเองจากดอกที่ซื้อมาประกอบใส่ตู้ทำเอง พอยกเครื่องเล่นซีดีมาต่อเข้า ผมพบว่าซีดีแต่ละตัวเสียงไม่เหมือนกัน แต่ผมไม่เคยแยกเสียงเครื่องเล่นที่บ้านได้เลย
มันแทบฟังไม่ออกว่าเสียงต่างกันอย่างไรถ้าไม่เงี่ยแล้วเงี่ยอีก มันน่าจะอยู่ที่ภาคขยายนะ
เพราะเครื่องขยายที่บ้านผม 40-50 วัตต์เท่านั้น
ความไวลำโพง 89-90 เดซิเบล/วัตต์
ผมอดมีความคิดจะเปลี่ยนแอมป์ไม่ได้ให้มีกำลังมากกว่า 100
วัตต์ขึ้นไปด้วยความอยากรู้ว่าจะขับลำโพง Monitor Audio
BX-2 ออกไหม เมื่อเห็นเขาประกาศขาย Roksan Kandy K2 BT ในราคาพิเศษจึงได้ติดต่อไป เป็นแอมป์รุ่นปรับปรุงจากรุ่นเดิมให้สามารถสื่อสารรับฟังเพลงผ่านสมาร์ทโฟนและไอแพดผ่านระบบบลูทูธได้
และยังเพิ่มกำลังขึ้นไปเป็น 150 วัตต์
คนขายนำรุ่น Kandy K3 มาเปิดเปรียบเทียบให้ผมฟังด้วย แต่ราคามันไม่สามารถล่อใจผมได้ทั้งๆที่เสียงมันเนียนกว่ากันอย่างชัดเจน ไหนๆก็ไปถึงสตูดิโอเขาแล้ว ผมขอฟังคู่กับลำโพง Castle Avon2 ที่ผมหมายตาไว้ตั้งแต่คราวก่อน
แต่การฟังหนนี้ผมต้องยอมรับความจริงว่ามันไม่เหมาะกับดนตรีทุกประเภท เครื่องดนตรีน้อยชิ้นน่าจะเหมาะกว่า
หากเป็นวงดุริยางค์เต็มรูปแบบนี้มันทรมานเป็นอย่างยิ่ง เสียงแหลมที่กังวานยาวมันตีกันจนแสบแก้วหูไปทั้งเพลง ผมเพิ่งเข้าใจคำว่าขับได้หลุดตู้เมื่อนำแอมป์กำลังสูงๆมาประกบกับ
BX-2 แม้ว่าลำโพงดังกล่าวจะมีความไว 90
เดซิเบล/วัตต์ก็ตาม ถ้าเป็นลำโพงอื่นกำลังขับของแอมป์ขนาด
50 วัตต์คงขับได้สบายๆแล้ว
ในงานเครื่องเสียงปลายปี 2015
ผู้แทนจำหน่ายนำ Roksan Kandy
K2 BT กับ Audiolab
8300CD มาจัดชุดกับลำโพง Castle Knight5
มาเปิดให้ฟัง ทดลองฟังเสียง ผมอยากจะบอกว่าผมหลงเสียงนางเข้าเต็มรัก เขาเปิดเพลงประเภท easy listening
เสียงของมันกลมกล่อมมากๆ ไหลรื่น
ค่อนข้างแฟลตไม่มีไดนามิคมาก สบายติดหูผม
ฟังได้ทั้งวันทั้งคืนไม่มีเบื่อ วันหนึ่งผมมีโอกาสไปร้านเครื่องเสียงแห่งหนึ่ง เขามีแอมป์ Roksan มี Knight2 ซึ่งเป็นลำโพงวางหิ้ง
ผมขอเขาฟังจากเครื่องเล่นแผ่น Marantz SA-KI Pearl เทียบกับ Audiolab 8200CD เสียงของมารานซ์นั้นเด่นเสียงกลางและออกแนวสดมากกว่าเครื่องของออดิโอแลป แต่เสียงลำโพง Knight2 ยังไม่ใช่
ผมฟังเสียงเปียโนเป็นหลัก
ลำโพงไม่ได้ให้เสียงเปียโนเหมือนจริง
มันเป็นเสียงสังเคราะห์ที่ออกมาจากเครื่องเล่นคอมโบมากกว่า พนักงานของร้านทดลองให้ผมฟัง KEF LS-50 เป็นลำโพงวางหิ้งแบบสตูดิโอระดับ
5 ดาวแดง
เสียงเปียโนดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ใช่อยู่ดี
ถ้าจะฟัง Tchaikovsky
Piano Concerto No.1
แล้วได้เสียงเปียโนแบบนี้อย่าฟังเลยจะดีกว่า
![]() |
MA RX-6 |
มีอยู่วันหนึ่งผมเห็นร้านขายเครื่องเสียงมือสองบนห้างอิมพีเรียลลาดพร้าวนำเอาเครืองเล่นซีดี
Moon CD.5 มาขาย ในร้านเขามี Monitor Audio Silver
5i ตั้งอยู่ด้วย
เลยขอเขาฟังเสียงหน่อย เขาใช้แอมป์ของ Denon AVR รุ่นอะไรผมลืมไปแล้วเปิดให้ฟังกับลำโพง Wharfedale 9
เสียงจากเครื่องอ่าน Moon หนานุ่มเบสเยอะพอควร
เสียงกลางคับห้องพอดีเมื่อจับกับเครื่องของ Denon ทางร้านลองเปลี่ยนเป็นลำโพงตั้งพื้น Silver 5i
เป็นลำโพงสองทาง (150W, 38-25kHz, 89 dB, 5.5” mid/bass, 5.5” woofer, 1 bass reflex)
เมื่อค้นดูรีวิวตามเวปแล้วนักวิจารณ์บอกเสียงสุดยอด ซึ่งก็เป็นความจริง เสียงร้องเปิดโปร่งให้ความชัดเจนมากๆ เสียงไม่อั้นเลย สะอาดเคลียร์
ฟังแล้วตัดสินใจไม่ได้ว่าเสียเงินซื้อเครื่องเล่นซีดีก่อนหรือลำโพงก่อนดี โดยทฤษฎีแล้วเขาให้จับคู่เครื่องขยายเสียงกับลำโพงก่อน
เพราะเป็นบุคลิกเฉพาะตัวที่แต่ละคนชอบไม่เหมือนกันเพื่อให้ได้ได้แนวเสียงที่เราชอบจริงๆมาก่อน ส่วนเครื่องเล่นต้นทาง, สาย,
เป็นสิ่งที่มาจูนอะไรที่ขาดเหลือภายหลัง ผมพบว่าแนวเสียงที่ใช่กับแนวเสียงที่ผมหลงมันคนละแนวกันเลย ผมเลือกเสียงที่เป็นธรรมชาติสมจริงอย่างที่ใช่ก่อนเพราะผมจะต้องอยู่กับมันอีกนาน
เทศกาลลดราคาของร้านปิยะนัสมาถึง
ผมหมายตาลำโพงไว้ 2-3 คู่ คิดว่าต้องหาทางลองฟังเปรียบเทียบดู ลำโพงแต่ละคู่กระจายกันไปอยู่คนละสาขา
การที่ได้โทรไปคุยกับพนักงานแต่ละสาขาเป็นประโยชน์กับผมไม่น้อย
แม้เขาไม่สามารถหาคู่เทียบให้ผมฟังได้ แต่เขาวิจารณ์ให้ผมฟังเหมือนตะล่อมให้ความคิดฟุ้งซ่านของผมกลับเข้าหาความจริง สุดท้ายแล้วผมอุ้มแอมป์สุดที่รักไปลอง Monitor Audio RX-6 และนำมันกลับบ้าน ทำไมต้องเป็น RX-6 (125W, 38-35kHz, 90 dB, 6” mid/bass, 6” woofer, HIV port II) เพราะมันเป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก Silver 5i ความรื่นไหลดี
เสียงกลางเปิดสว่างแต่ไม่สว่างเหมือน silver 5i มีเนื้อเสียหนาอิ่มกว่าเล็กน้อย ทำให้เสียงสุภาพขึ้นไม่เหมือนคนสติแตก เสียงแหลมพอประมาณ เบสมาชัดแจ้งแต่ไม่ล้นหลาม ตัวตัดสินคือเสียงเปียโนใกล้ความจริงมาก
แต่ยังไม่ 100%
เสียงช่วงกลางเปิดโปร่งมากเกินเล็กน้อยทำให้เสียงเปียโนเหมือนเปียโนเก่าออกแนวก้องๆ
เนื้อเสียงกลางไม่หนาและอิ่มอย่างที่ผมชอบ แผ่นซีดีผมกว่า 70% เป็นแผ่นที่มีเปียโนประกอบ หากมันไม่เหมือนจริงแล้วผมคงหงุดหงิดมาก ในสถานการณ์เช่นนี้ผมขอเลือกเสียงที่ใช่มากกว่าเสียงที่ผมหลง แล้วทำอย่างไรให้มันเข้าใกล้ร้อยไปอีก นั่นคือรอเวลาเปลี่ยนเครื่องเล่นซีดี แต่สิ่งที่ทำได้ก่อนคือเปลี่ยนฟิวส์ให้น้ำเสียงอิ่มขึ้น
และเปลี่ยนสายไฟ
ผมถูกฝังหัวมาเพราะหลงเสียงนางว่า Audiolab 8200CD ให้เสียงที่ราบเรียบ
ไดนามิคไม่มากฟังสบายหู มีอยู่วันหนึ่งผมไปซื้อสายลำโพง
อยากลองสายลำโพงแบบตีเกลียวเนื้อทองแดงใหญ่ดูว่าเป็นอย่างไร
ไหนๆก็ไปถึงแล้วขอฟังเครื่องเล่นซีดีเขาอีกรอบหนึ่ง คนขายบอกผมว่าถ้าพี่ชอบอะไรที่สมจริง แรงปะทะดี
ไดนามิคดี พี่เลือก Roksan K2 เถอะครับ ความเป็นดนตรีมันดีกว่าเยอะ ดีกว่า Marantz SA8005
ที่พี่เล็งไว้แต่แรกอีก เขาจัดการต่อชุด Roksan K2BT กับลำโพง Wharfedale Dayton โดยไม่อิดออด เสียงมันต่างกันจับสังเกตได้ง่าย มารานซ์นั้นเด่นที่เสียงกลาง เสียงร้องลอยนิดๆ
แนวใกล้เคียงกับร๊อคซานที่มีไดนามิคทุกช่วงดี สนุกสนาน ออดิโอแลปกลางๆไม่จัดจ้านนัก
ที่ร้านเขามีแผ่นทดสอบแผ่นหนึ่งเป็นดนตรีประกอบเสียงธรรมชาติ เสียงคลื่นกระทบฝั่งซัดสาดซ่า ผมได้ยินเสียงน้ำที่แตกกระเซ็น คราวนี้ใช่เลย
มันชัดสมจริงมากๆสำหรับร๊อคซาน
แต่เสียงที่ออกมาจากออดิโอแลปเป็นเสียงแห้งๆเหมือนหมอผีซัดทรายมากกว่า นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเลือกเสียงที่ใช่ไว้ก่อน พอได้สายลำโพงกลับมาพ้นระยะเผาหัวเกิดอยากรู้ขึ้นมาว่าสายทองแดงฝอยพันกันเป็นเส้นโตๆกับสายทองแดงแกนเดี่ยวให้เสียงอิ่มอุ่นเหมือนกันไหม ผมลองสลับสายกับ Audioquest type4 สัมผัสแรกคือ RX-6 ให้เสียงอุ่นขึ้น
เบสมีมากขึ้นมีเนื้อมีหนังไม่แห้งแบบ type4 แต่พอฟังไปอีกสักพักเริ่มชินหู
จึงเข้าใจได้ว่า เสียงที่อิ่มมีเนื้อหนังคล้ายไหลลื่นนั้นเสียงเบสมันฟุ้งกว่า มันกลบรายละเอียดไปเยอะพอสมควร เส้นทองแดงของ type4 เป็นแกนเดียว
เสียงเบสมันกระชับเก็บตัวเร็วมากฟังแล้วแห้งแล้ง
แต่ได้เสียงที่มีรายละเอียดชัดไม่ฟุ้ง
หากผมต้องการให้มันเก็บตัวช้าอีกนิด
ผมน่าจะขยับตำแหน่งมันใหม่จะดีกว่าเปลี่ยนสาย
ผมไปงานแสดงเครื่องเสียง
ผมสังเกตการจัดวางเครื่องเสียงแต่ละห้อง
เห็นของเล่นหลายอย่างที่เขานำมาติดตั้งเพื่อให้เสียงในห้องดีขึ้น ห้องจัดแสดงคือห้องพักโรงแรม มีหน้าต่างกระจก ม่าน บางห้องผนังบุผ้า ทุกห้องปูพรมอัด มีกระจกบานใหญ่ มีผนังไม้อัด มีคิ้วไม้ ผมเห็นบางห้องเปิดม่านหน้าต่างเห็นกระจก เขาบอกว่าวิวตึกระฟ้ากรุงเทพข้างนอกสวย แต่บนหน้าต่างกระจกเขามีไม้ทรงจัตุรัสชิ้นเล็กๆ
ตรงกลางเป็นเหมือนขันโลหะคว่ำ
บางห้องปิดม่านหมด และใช้แผ่นครีบ grill
วางด้านที่ผนังเป็นไม้อัด
แผ่นครีบมีทั้งที่เป็นโฟม ฟองน้ำ และไม้สน
บางห้องเป็นโฟมรูปทรงตะปุ่มตะป่ำขนาดแค่คืบเอาไปแปะไว้ตามจุดต่างๆที่สะท้อนเสียงมากๆ
เช่น กระจก ผมถามมาได้ความว่าอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยลดการสะท้อนเสียงในห้อง
ลดเสียงก้องและปรับอะคูสติคให้เหมาะสม
ห้องที่มีม่าน มีพรม ผนังบุผ้า วัสดุเหล่านี้ดูดซับเสียง ถ้ามีมากเกินเสียงจะแห้ง
เพราะการสะท้อนเสียงน้อยมาก
ถ้ามีพอดีเสียงจะสงัดน่าฟัง
ห้องที่ผนังเรียบสะท้อนเสียงดีมากๆเขานิยมติดโฟม
ติดฟองน้ำเพื่อกระจายเสียงออกหลายทิศทางลดเสียงก้อง เจ้าหน้าที่เขายืนสาธิตให้ผมดูกลางห้อง
ในมือเขามีอุปกรณ์เหมือนปิรามิดขั้นบันไดขนาด 10 นิ้วได้ หากเขายกอุปกรณ์ที่ว่าขึ้นระดับอก
เสียงในห้องเปลี่ยนไปทันที
เสียงชัดขึ้น มันมีผลแน่นอนเพราะการจัดตั้งที่ถูกต้อง
เราจะได้ยินเสียงดนตรี เสียงนักร้องยืนร้องให้เราฟังจากกลางเวทีหน้าห้อง กลับไปถึงบ้านด้วยความอยากรู้
ผมชวนพี่สาวมานั่งฟังเพลง
ผมถือถาดกระดาษแผงไข่แผ่นหนึ่งไปทาบที่บนฝาตรงหน้าเธอ เธอบอกรับรู้ได้ถึงเสียงที่เปลี่ยนไป มันชัดขึ้นกว่าเดิม คราวนี้ก็สนุกซิครับ เที่ยวลองเอาอะไรไปแปะนู่นแปะนี่ ห้องผมมีตู้กระจกรอบห้อง
ผมซื้อสักหลาดมาจ้างเขาเย็บชายจะได้สอดไม้ห้อยลงมาเป็นผืนตรงๆปิดหน้าตู้กระจก ถามผมว่าเสียงดีขึ้นไหม ได้แต่เดาว่าดีขึ้นนะครับเพราะผมลุกขึ้นลุกลงจับสังเกตไม่ได้
ข้อสรุปคือ ไม่มีเครื่องเล่นชุดไหนตอบสนองความต้องการฟังเพลงได้ทุกรูปแบบ
นี่เป็นข้ออ้างว่าทำไมจึงต้องมีเครื่องเสียงหลายชุด คนชอบดนตรีประเภทดุริยางค์เต็มวง
อาจต้องเลือกเครื่องเสียงชุดที่ค่อนข้างสมจริง ไดนามิคดี ประเภทนี้ฟังแล้วเลือดลมหมุนเวียนดี
แต่ฟังนานไม่ไหวปวดหู
คนชอบฟังดนตรีแบบสบายๆไม่เครียด ก็ต้องเลือกที่มีช่วงไดนามิคแคบลงมาหน่อย คนชอบฟังดนตรีเครื่องน้อยชิ้น
บางคนชอบปลายเสียงแหลมยาว บางคนชอบเบสนุ่มๆ จึงต้องจัดชุดให้เหมาะกับประเภทการฟังแต่ละคน ถ้าเราเลือกที่ใช่สำหรับเราเราจะมีความสุขกับมันได้นานๆ ลองสังเกตดูนะครับว่าของอะไรที่หลงมักเป็นการหลงเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
ประการต่อมาให้จับคู่แอมป์กับลำโพงให้ได้ก่อนเพราะเป็นคาแรคเตอร์หลักของชุดเครื่องเสียง
แล้วถึงค่อยเลือกเครื่องเล่นต้นทางอย่างซีดี, เปลี่ยนฟิวส์, เปลี่ยนสายไฟ, เลือกสายลำโพง
เพื่อจูนให้เสียงเข้ากับรสนิยมของเรา สุดท้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนนุ่นเปลี่ยนนี่ลองขยับเปลี่ยนที่ตั้งลำโพงก่อนเพราะเป็นอย่างเดียวที่เราไม่ต้องเสียสตางค์แต่เป็นวิธีที่ทำให้เสียงออกมาดีที่สุด
มีผลมากกว่าทุกวิธี
พยายามลดเสียงก้องในบ้าน ในห้องฟังเพลง
พรมและม่านจะช่วยได้มาก
ถ้ามีถาดไข่อย่าทิ้ง เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ หากเราไม่ใช่พวกหูทอง จะฟังอะไรอาจต้องใช้เวลานานในการจับสังเกต ฉะนั้น อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรโดยที่เราให้เวลากับมันไม่มากพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น