บันทึกการเที่ยวปราสาทหินต่างๆ ในเมืองเกาะแกร์ กัมพูชา
จัดเป็นยุคหนึ่งของศิลปะปราสาทหิน ศิลปะเกาะแกร์
KOH KER
ไปดูปราสาทหินในเขมรหลายครั้งได้แต่เที่ยวอยู่ในเสียมราฐ และบันทายฉมาร์
อยากเห็นปราสาทในยุคอื่นบ้าง วันหยุดช่วงปลายปี 2022
จึงได้กำหนดวันไปกลุ่มปราสาทเมืองเกาะแกร์ในเขตจังหวัดพระวิหาร
ซึ่งอยู่ห่างจากเสียมราฐขึ้นไป 120 กม. ไม่ห่างจากชายแดนศรีสะเกษของไทยนัก
ผมเลือกบินการบินไทยไปถึงเสียมราฐราวแปดโมงครึ่ง
และติดต่อรถให้มารับที่สนามบินเพื่อตรงไปเกาะแกร์เลย
เกาะแกร์ เป็นโบราณสถานที่มีความโดดเด่น พระเจ้าชัยวรมันที่ 4
สร้างเกาะแกร์ขึ้นเป็นเมืองหลวง แต่อยู่ได้เพียงสั้นๆในรัชสมัยของพระองค์ (ค.ศ.
928-44) ราชบุตรของพระองค์พระเจ้าหรรษวรมันที่ 2
ก็มีพระชนม์ชีพสั้นครองราชย์เพียง 3 ปีเท่านั้น
เมืองเกาะแกร์ตั้งอยู่เชิงเขากุเลน
นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าการตั้งเกาะแกร์เป็นราชธานีซ้อนกับยโศธรปุระนั้นอยู่ในลักษณะของการปราบดาภิเษก
พระเจ้าชัยวรมันที่ 4 เป็นพระญาติที่เข้ามาในราชวงศ์ทางการสมรส
การตั้งราชธานีใหม่นี้เกิดขึ้นในขณะที่พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1
ยังทรงครองราชธานียโศธรปุระ เกิดเป็นเมืองหลวงสองแห่งขึ้นพร้อมๆกัน
บ้างก็สันนิษฐานว่าเกาะแกร์เป็นบ้านเกิดฐานที่ตั้งเดิมของพระเจ้าชัยวรมันที่ 4
การไปสร้างบ้านแปงเมืองในถิ่นเดิมของพระองค์ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด
ที่ตั้งของเมืองเกาะแกร์อยู่ท่ามกลางป่าต้นตะเคียน
บ้างก็ว่าแถบนี้มีแร่ทองแดงจำนวนมาก
ซึ่งถือว่าเป็นยุทธปัจจัยสำคัญถ้าจะดูแผนที่จะเห็นว่าตลอดเส้นทางจากเมืองพระนคร
ยโศธรปุระเพื่อขึ้นไปวัดพูในแขวงจำปาสัก เกาะแกร์เป็นเส้นทางราชมรรคาที่สำคัญ
ผ่านประสาทบึงมาลา มีธรรมศาลาและอโรคยาศาล
และยังเป็นเส้นทางที่ตัดขึ้นเขาพระวิหารไปเมืองพิมาย
ในจารึกโบราณมีการกล่าวถึงเมือง “ลึงคปุระ” หรือ “โฉกครรคยาห์”
(อ่านว่าโฉกโกกีร์)
อันเป็นที่มาของการการสะกดของฝรั่งว่าเกาะแกร์จนทุกวันนี้
การสร้างราชธานีใหม่นั้น เนื่องจากแถบนี้เป็นบริเวณที่แห้งแล้ง
มีละหานหรือระหัล Rahul ซึ่งเป็นแก้มลิงธรรมชาติของแม่น้ำ
จึงมีการขุดบารายขนาดใหญ่เพื่อกักน้ำให้ได้มาก ภายในเวลาไม่ถึง 20 ปี
มีศาสนสถานฮินดูพราหมณ์เป็นร้อยแห่ง โดยมีปราสาทธมเป็นศาสนสถานสำคัญ
กลุ่มศาสนสถานเมืองเกาะแกร์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างน่าสนใจ เช่น
ปรางค์ทรงปิรามิด วัดปรำ วัดเนียง วัดลึงค์ เป็นต้น
ปราสาทธม Prasat Thom เป็นศาสนสถานประจำเมืองเกาะแกร์
เป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ ตัวแทนของตรีภูวเนศวร Tribhuvaneshavara
ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของปรางค์ทรงปิรามิดซึ่งซ้อนกัน 7 ชั้น
ในลักษณะของสัตตบริภัณฑ์รายล้อมเขาพระสุเมรุ ฐานชั้นล่างมีขนาดกว้างด้านละ 62
เมตร สูง 36 เมตร ปรางค์ทั้งหลังสร้างจากหินทราย ปัจจุบันศิวลึงค์ทองคำขนาด 4
เมตรไม่มีแล้ว ด้านทิศตะวันออกมีทางบันไดหินโบราณปีนตรงขึ้นไปถึงด้านบน
วิมานครอบศิวลึงค์น่าจะยังสร้างไม่สำเร็จก็สิ้นรัชกาล
ตัวปราสาทวัดธมที่อยู่ด้านหน้าพังทลายเหลือแต่โคปุระชั้นนอก,
ปราสาทกรอฮอม Prasat Krohom อิฐแดงหลังใหญ่, โคปุระชั้นที่ 2
และวิมานอิฐ 9 หลังที่เป็นประธาน รายล้อมด้วยมีระเบียงคด
เสาสะพานนาคที่เชื่อมโคปุระชั้นนอกและชั้นในล้มทั้งหมด
ภายในปราสาทกรอฮอมเดิมเคยมีเทวรูปศิวนาฏราชสูงถึง 5 เมตร ถล่มลงมาอยู่ที่พื้น
ส่วนในโคปุระชั้นในเป็นที่ประดิษฐานพระยม และเทพบริวาร
เทวรูปพระอาทิตย์พระจันทร์ในโคปุระโยกย้ายไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีให้เห็นแล้วเช่นกัน
ภาพสลักหน้าบันและทับหลังมีให้เห็นรายละเอียดงดงาม
|
การจำหลักลายกรอบประตูโคปุระชั้นในปราสาทธม
เห็นปราสาทกรอฮอมที่สร้างจากอิฐแดง
|
|
เสาสะพานนาคที่นำเข้าสู่ตัวปราสาทล้ม
|
|
ส่วนของวิมาน 9 หลังที่สร้างจากอิฐแดงที่หลงเหลืออยู่
|
|
ลายจำหลักเสาประตูภายในโคปุระชั้นใน
|
|
ปรางค์ปราสาทประธาน บันไดทางขึ้นโบราณอยู่ด้านหน้า
ปัจจุบันทำทางขึ้นให้เดินง่ายๆด้านข้าง
|
|
สิงห์แบกในส่วนศิขระ สำหรับตั้งศิวลึงค์และฐานโยนี
|
ปราสาทปรำ Prasat Pram เป็นปราสาทสำคัญอีกแห่งหนึ่ง
เป็นปราสาทอิฐเรียงกัน 3หลัง บนฐานไพทีเดียวกัน
ลักษณะปราสาทสามหลังเรียงกันมักเป็นการบูชาเทพตรีมูรติ ได้แก่พระศิวะ พระวิษณุ
และพระพรหม มีปราสาทอีก สองหลังตั้งแยกออกมา รวมเป็นห้าองค์ (ปรำ หมายถึง ห้า)
ปราสาทกลุ่มนี้มีรากไม้จับสวยงาม
ปรางค์องค์หนึ่งที่แยกออกมามีช่องลมทำให้เกิดการสันนิษฐานกันต่างๆว่า
อาจใช้เป็นเมรุ แต่ช่องลมเล็กมาก บ้างก็ว่าเป็นธรรมศาลาสำหรับต่อไฟ
จะได้มีไฟใช้ในพิธีกรรมไม่ขาด ปรางค์แยกอีกองค์หนึ่งสร้างจากแลง
|
ปราสาทอิฐสามหลังบนฐานเดียวกัน
|
|
อาคารปริศนา บ้างก็สันนิษฐานว่าเป็นเมรุปลงพระศพ
บ้างก็คิดว่าเป็นธรรมศาลาหรือบ้านมีไฟ เพราะช่องลมมีขนาดเล็กมาก
|
ในเมืองเกาะแกร์ มีปราสาทลึงค์ Prasat Linga ถึง 3 แห่ง
เป็นปราสาทขนาดเล็ก แต่ขนาดของลึงค์ใหญ่มหึมา ลักษณะของปราสาททั้งสามพังทลาย
แต่ลวดลายจำหลักฐานบางแห่งยังคงสวยงามอยู่ สามารถปีนขึ้นไปดูได้
บางหลังยังเห็นท่อโสมสูตรที่ต่อออกมาภายนอกอาคาร เมื่อพราหมณ์ทำพิธี
เขาจะใช้นมวัวราดรดลึงค์
น้ำนมจะไหลลงฐานโยนีและไหลออกตามรางหรือท่อโสมสูตรออกนอกอาคาร
ถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์
|
ปราสาทขนาดเล็ก สร้างจากหินทราย
|
|
ลึงค์ตั้งบนฐานโยนี |
|
ลวดลายบนฐานโยนี
ทางออกของท่อโสมสูตรจะไหลออกจากห้องครรคฤหะทางทิศเหนือเสมอ
|
ปราสาทกระจับ Prasat Krachap เป็นปราสาทขนาดกระทัดรัด
หันไปทางทิศตะวันตก มีโคปุระสภาพค่อนข้างดีล้อมรอบ ตัวปราสาทพังลงเป็นส่วนมาก
ลักษณะทรงปราสาทและเครื่องตกแต่งคล้ายกับปราสาทเขาพระวิหาร
กำลังอยู่ในช่วงของการบูรณะจึงปิดบางส่วนไม่สามารถเข้าได้
|
โคปุระส่วนหน้าของปราสาทกระจับ
|
|
ลายประจำยาม ลายบัวหงายประดับฐานปราสาท ส่วนบนก่อด้วยแลง
|
|
พระยมทรงกระบือ เต็มกรอบหน้าบันปราสาทกระจับ
|
ปราสาทดำเรย Prasat Damrei เป็นปราสาทอิฐขนาดเล็ก
ปรางค์ประธานเดี่ยวๆบนฐานสูง ทั้งสี่มุมประดับด้วยช้าง
ฮินดูเชื่อว่าโลกนี้ค้ำด้วยช้าง มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ทิศ
มีสิงห์ประดับที่บันไดทางขึ้น
|
ปราสาทหลังเล็กบนฐานเตี้ยๆ ที่ประดับมุมด้วยช้างทรงเครื่องงดงาม
|
|
ช้างยืนทรงเครื่องงดงาม
|
ปราสาทบึงคณา Prasat Boeng Khna เป็นปราสาทหินทรายขนาดเล็ก
พังจนเหลือแต่ฐาน ปราสาทสร้างใกล้กับบึงน้ำ ปัจจุบันตื้นเขินแล้ว
พื้นที่โดยรอบบึงน้ำมีการสลักหินทรายเป็นเทพต่างๆ และสัตว์หลายชนิด
|
ปราสาทหินทรายขนาดเล็ก เหลือแต่ฐาน
|
บริเวณโดยรอบมีการจำหลักเทพต่างๆที่ริมตลิ่ง
|
|
ปราสาทบันทายปีจ้วน Prasat Banteay Pir Chuan บันทายหมายถึงป้อมค่าย
ปีหมายถึงสอง คือมีกำแพงล้อมป้อมค่ายสองชั้น ปรางค์ประธานสร้างจากศิลาแลง
ภายในมีฐานรูปหงส์สลักจากหินทรายงดงาม มีบรรณาลัยอิฐอีกสองหลังด้านซ้ายและขวา
กำลังบูรณะขณะที่ผมไป ยังพอให้เห็นหน้าบันและทับหลังหินทรายบ้างบางองค์
ล้อมด้วยโคปุระสองชั้น กำแพงโคปุระชั้นนอกเป็นศิลาแลง
เสาโคปุระชั้นในสลักเป็นจารึกเต็มทุกเสา
เป็นอีกปราสาทที่ไม่ควรพลาด
|
ซุ้มโคปุระชั้นนอกปราสาทบันทายปีจ้วน
|
|
ปราสาทประธานเป็นศิลาแลง บรรณาลัยด้านซ้ายมือก่อด้วยอิฐ
ประดับกรอบประตูและทับหลังด้วยหินทราย
|
|
เสาโคปุระชั้นในบันทึกข้อความไว้ทุกต้น
|
|
ฐานโยนีขนาดใหญ่จำหลักเป็นรูปหงส์
|
|
ปรางค์ประธานก่อด้วยแลง
|
เกาะแกร์จะเป็นเมืองเอกเทศที่มีศิลปะของตนเอง
ส่วนหนึ่งได้จากการดัดแปลงศิลปะในยุคก่อนหน้า ได้แก่ ศิลปะพะโค ศิลปะบาเค็ง
ลักษณะศิลปะแบบเกาะแกร์เน้นความใหญ่โต ศิวลึงค์มีขนาดสูงใหญ่
รูปปั้นเทพเจ้าใหญ่โตตามขนาดของอาคารประธาน
การนุ่งผ้านุ่งของชายมีการพลิกชายสมปักพับจีบออกมาคลุมหน้าท้องเป็นครึ่งวงกลมและปล่อยชักพกชายผ้าเป็นรูปหางปลา
1-2 ชั้นไว้ด้านหน้า
ส่วนผ้านุ่งสตรีก็มีการดึงชายสมปักออกมาเป็นครึ่งวงกลมที่หน้าท้องเช่นกัน
แต่ชักพกชายผ้าเบี่ยงไปทางขวาเป็นรูปสามเหลี่ยม
กรอบเสาประตูบางที่จำหลักลายคล้ายกับที่พบในปราสาทพนมรุ้งแสดงถึงอิทธิพลที่ส่งมาถึง
ลักษณะเครื่องบนหลังคา เป็นหลังคาที่วางคานไม้
ตีระแนงและมุงกระเบื้องดินเผา
ส่วนกรอบปิดหน้าหลังหลังคาเป็นหินทรายแกะลายเลียนแบบหลังคาไม้
ทำให้เห็นหน้าบันเป็นกรอบสามเหลี่ยม ตีฝักเพกาประดับกรอบและต่อชายด้วยตัวเหงา
หน้าบันจำหลักรูปเทพขยายเต็มกรอบ ใต้หน้าบันเป็นทับหลัง
ภาพบุคคลประธานสลักเต็มความสูงของกรอบทับหลัง ท่อนมาลัยปลายม้วนขึ้น
เหนือท่อนมาลัยแกะเป็นกนกใบไม้
และด้านล่างเป็นก้านม้วนงอในลักษณะม้วนเข้ามีสมมาตรทั้งฝั่งซ้ายขวาโดย
มีการเชื่อมก้านลายตรงกลาง
เหนือทับหลังมีแถบลายเล็กๆแล่นตลอดความกว้าง
แม้เกาะแกร์จะมีเวลากำเนิดขึ้นสั้นๆเพียง 16 ปี
แต่งานแบบเกาะแกร์ก็ส่งอิทธิพลต่อเนื่องไปนับร้อยปีจนถึงยุคบาปวน
ปราสาทปักษีจำกรงที่อยู่ข้างประตูนครธมถอดแบบปรางค์ปิรามิดปราสาทธมออกมา
รวมถึงการจำหลักทับหลังงานแบบเกาะแกร์ด้วย
|
ทับหลังปราสาทกระจับ เป็นพระพรหมทรงหงส์เต็มความสูงทับหลัง
เหนือมาลัยเป็นกนกใบไม้ ใต้ท่อนมาลัยเป็นก้านขด
แถบลายคาดด้านบนทับหลังกระเทาะเหลือเพียงเล็กน้อย
|
|
กรอบหน้าบันปราสาทกระจับ
เห็นช่องสอดไม้เป็นคานหลังคาสำหรับตีระแนงและวางกระเบื้องดินเผา
ภาพจำหลักวางเต็มพื้นที่แบบเกาะแกร์
|
|
ทับหลังปราสาทกรอฮอม งานต้นแบบเกาะแกร์
เป็นพระกฤษณะในปางม้ารบอสูรเมื่อครั้งสร้างโลก
เสาประตูคู่นี้เขาบอกว่าเหมือนงานที่พนมรุ้ง
|
กว่าผมจะไปถึงเกาะแกร์ก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี ระยะทาง 120
กม.ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เกิน 60 กม.
เนื่องจากเป็นทางลาดยางสองช่องจราจรที่ผ่านหมู่บ้านไปตลอดเส้นทาง
เส้นทางบางช่วงเป็นหลุมบ่อ พาหนะที่ใช้จึงควรเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ
ผมได้ชื่อคนขับรถจาก tripadvisor แต่โควิดที่ผ่านมาสถานการณ์ต่างๆเปลี่ยนไป
เขาส่งต่องานให้กับคนรู้จักอีกท่านรับงานแทน ผมเลยได้ใช้บริการเขาตลอดทริป 5
วัน 4 คืน เขามีทั้งรถโฟร์วิลเลกซัส และรถสามล้อ (ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์ดัดแปลง)
เป็นคนที่มีอัธยาสัยดี พูดภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้เล็กน้อย During a day the
trip from the airport to Koh Ker and Beng Melia temple; and
other 3 days in Siem Reap as well, I booked the transportation
service with Mr. Ly Touvh (whatsapp: +855 12 934 627). The tuk tuk
driver, not a tourist guide based in Siem Reap, own a 4x4 Lexus and a
Tuk-tuk.
เกาะแกร์ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เมื่อวันที่
17 กันยายน 2023
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น