วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 01, 2567

เกาะแกร์ Koh Ker เมืองที่มีปิรามิดแห่งโลกตะวันออก

บันทึกการเที่ยวปราสาทหินต่างๆ ในเมืองเกาะแกร์ กัมพูชา จัดเป็นยุคหนึ่งของศิลปะปราสาทหิน ศิลปะเกาะแกร์  KOH KER


ไปดูปราสาทหินในเขมรหลายครั้งได้แต่เที่ยวอยู่ในเสียมราฐ และบันทายฉมาร์ อยากเห็นปราสาทในยุคอื่นบ้าง วันหยุดช่วงปลายปี 2022 จึงได้กำหนดวันไปกลุ่มปราสาทเมืองเกาะแกร์ในเขตจังหวัดพระวิหาร ซึ่งอยู่ห่างจากเสียมราฐขึ้นไป 120 กม. ไม่ห่างจากชายแดนศรีสะเกษของไทยนัก ผมเลือกบินการบินไทยไปถึงเสียมราฐราวแปดโมงครึ่ง และติดต่อรถให้มารับที่สนามบินเพื่อตรงไปเกาะแกร์เลย 

 เกาะแกร์ เป็นโบราณสถานที่มีความโดดเด่น พระเจ้าชัยวรมันที่ 4 สร้างเกาะแกร์ขึ้นเป็นเมืองหลวง แต่อยู่ได้เพียงสั้นๆในรัชสมัยของพระองค์ (ค.ศ. 928-44) ราชบุตรของพระองค์พระเจ้าหรรษวรมันที่ 2 ก็มีพระชนม์ชีพสั้นครองราชย์เพียง 3 ปีเท่านั้น เมืองเกาะแกร์ตั้งอยู่เชิงเขากุเลน นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าการตั้งเกาะแกร์เป็นราชธานีซ้อนกับยโศธรปุระนั้นอยู่ในลักษณะของการปราบดาภิเษก พระเจ้าชัยวรมันที่ 4 เป็นพระญาติที่เข้ามาในราชวงศ์ทางการสมรส การตั้งราชธานีใหม่นี้เกิดขึ้นในขณะที่พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 ยังทรงครองราชธานียโศธรปุระ เกิดเป็นเมืองหลวงสองแห่งขึ้นพร้อมๆกัน บ้างก็สันนิษฐานว่าเกาะแกร์เป็นบ้านเกิดฐานที่ตั้งเดิมของพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 การไปสร้างบ้านแปงเมืองในถิ่นเดิมของพระองค์ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด ที่ตั้งของเมืองเกาะแกร์อยู่ท่ามกลางป่าต้นตะเคียน บ้างก็ว่าแถบนี้มีแร่ทองแดงจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นยุทธปัจจัยสำคัญถ้าจะดูแผนที่จะเห็นว่าตลอดเส้นทางจากเมืองพระนคร ยโศธรปุระเพื่อขึ้นไปวัดพูในแขวงจำปาสัก เกาะแกร์เป็นเส้นทางราชมรรคาที่สำคัญ ผ่านประสาทบึงมาลา มีธรรมศาลาและอโรคยาศาล และยังเป็นเส้นทางที่ตัดขึ้นเขาพระวิหารไปเมืองพิมาย ในจารึกโบราณมีการกล่าวถึงเมือง “ลึงคปุระ” หรือ “โฉกครรคยาห์” (อ่านว่าโฉกโกกีร์) อันเป็นที่มาของการการสะกดของฝรั่งว่าเกาะแกร์จนทุกวันนี้ 

การสร้างราชธานีใหม่นั้น เนื่องจากแถบนี้เป็นบริเวณที่แห้งแล้ง มีละหานหรือระหัล Rahul ซึ่งเป็นแก้มลิงธรรมชาติของแม่น้ำ จึงมีการขุดบารายขนาดใหญ่เพื่อกักน้ำให้ได้มาก ภายในเวลาไม่ถึง 20 ปี มีศาสนสถานฮินดูพราหมณ์เป็นร้อยแห่ง โดยมีปราสาทธมเป็นศาสนสถานสำคัญ กลุ่มศาสนสถานเมืองเกาะแกร์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างน่าสนใจ เช่น ปรางค์ทรงปิรามิด วัดปรำ วัดเนียง วัดลึงค์ เป็นต้น 

 ปราสาทธม Prasat Thom เป็นศาสนสถานประจำเมืองเกาะแกร์ เป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ ตัวแทนของตรีภูวเนศวร Tribhuvaneshavara ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของปรางค์ทรงปิรามิดซึ่งซ้อนกัน 7 ชั้น ในลักษณะของสัตตบริภัณฑ์รายล้อมเขาพระสุเมรุ ฐานชั้นล่างมีขนาดกว้างด้านละ 62 เมตร สูง 36 เมตร ปรางค์ทั้งหลังสร้างจากหินทราย ปัจจุบันศิวลึงค์ทองคำขนาด 4 เมตรไม่มีแล้ว ด้านทิศตะวันออกมีทางบันไดหินโบราณปีนตรงขึ้นไปถึงด้านบน วิมานครอบศิวลึงค์น่าจะยังสร้างไม่สำเร็จก็สิ้นรัชกาล ตัวปราสาทวัดธมที่อยู่ด้านหน้าพังทลายเหลือแต่โคปุระชั้นนอก, ปราสาทกรอฮอม Prasat Krohom อิฐแดงหลังใหญ่, โคปุระชั้นที่ 2 และวิมานอิฐ 9 หลังที่เป็นประธาน รายล้อมด้วยมีระเบียงคด เสาสะพานนาคที่เชื่อมโคปุระชั้นนอกและชั้นในล้มทั้งหมด ภายในปราสาทกรอฮอมเดิมเคยมีเทวรูปศิวนาฏราชสูงถึง 5 เมตร ถล่มลงมาอยู่ที่พื้น ส่วนในโคปุระชั้นในเป็นที่ประดิษฐานพระยม และเทพบริวาร เทวรูปพระอาทิตย์พระจันทร์ในโคปุระโยกย้ายไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีให้เห็นแล้วเช่นกัน ภาพสลักหน้าบันและทับหลังมีให้เห็นรายละเอียดงดงาม 

การจำหลักลายกรอบประตูโคปุระชั้นในปราสาทธม  เห็นปราสาทกรอฮอมที่สร้างจากอิฐแดง


เสาสะพานนาคที่นำเข้าสู่ตัวปราสาทล้ม


ส่วนของวิมาน 9 หลังที่สร้างจากอิฐแดงที่หลงเหลืออยู่


ลายจำหลักเสาประตูภายในโคปุระชั้นใน


ปรางค์ปราสาทประธาน  บันไดทางขึ้นโบราณอยู่ด้านหน้า ปัจจุบันทำทางขึ้นให้เดินง่ายๆด้านข้าง


สิงห์แบกในส่วนศิขระ สำหรับตั้งศิวลึงค์และฐานโยนี



ปราสาทปรำ Prasat Pram เป็นปราสาทสำคัญอีกแห่งหนึ่ง เป็นปราสาทอิฐเรียงกัน 3หลัง บนฐานไพทีเดียวกัน ลักษณะปราสาทสามหลังเรียงกันมักเป็นการบูชาเทพตรีมูรติ ได้แก่พระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม มีปราสาทอีก สองหลังตั้งแยกออกมา รวมเป็นห้าองค์ (ปรำ หมายถึง ห้า) ปราสาทกลุ่มนี้มีรากไม้จับสวยงาม ปรางค์องค์หนึ่งที่แยกออกมามีช่องลมทำให้เกิดการสันนิษฐานกันต่างๆว่า อาจใช้เป็นเมรุ แต่ช่องลมเล็กมาก บ้างก็ว่าเป็นธรรมศาลาสำหรับต่อไฟ จะได้มีไฟใช้ในพิธีกรรมไม่ขาด ปรางค์แยกอีกองค์หนึ่งสร้างจากแลง 

ปราสาทอิฐสามหลังบนฐานเดียวกัน

อาคารปริศนา  บ้างก็สันนิษฐานว่าเป็นเมรุปลงพระศพ บ้างก็คิดว่าเป็นธรรมศาลาหรือบ้านมีไฟ เพราะช่องลมมีขนาดเล็กมาก


ในเมืองเกาะแกร์ มีปราสาทลึงค์ Prasat Linga ถึง 3 แห่ง เป็นปราสาทขนาดเล็ก แต่ขนาดของลึงค์ใหญ่มหึมา ลักษณะของปราสาททั้งสามพังทลาย แต่ลวดลายจำหลักฐานบางแห่งยังคงสวยงามอยู่ สามารถปีนขึ้นไปดูได้ บางหลังยังเห็นท่อโสมสูตรที่ต่อออกมาภายนอกอาคาร เมื่อพราหมณ์ทำพิธี เขาจะใช้นมวัวราดรดลึงค์ น้ำนมจะไหลลงฐานโยนีและไหลออกตามรางหรือท่อโสมสูตรออกนอกอาคาร ถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ 

ปราสาทขนาดเล็ก สร้างจากหินทราย


ลึงค์ตั้งบนฐานโยนี


ลวดลายบนฐานโยนี  ทางออกของท่อโสมสูตรจะไหลออกจากห้องครรคฤหะทางทิศเหนือเสมอ



ปราสาทกระจับ Prasat Krachap เป็นปราสาทขนาดกระทัดรัด หันไปทางทิศตะวันตก มีโคปุระสภาพค่อนข้างดีล้อมรอบ ตัวปราสาทพังลงเป็นส่วนมาก ลักษณะทรงปราสาทและเครื่องตกแต่งคล้ายกับปราสาทเขาพระวิหาร กำลังอยู่ในช่วงของการบูรณะจึงปิดบางส่วนไม่สามารถเข้าได้ 

โคปุระส่วนหน้าของปราสาทกระจับ


ลายประจำยาม ลายบัวหงายประดับฐานปราสาท ส่วนบนก่อด้วยแลง

พระยมทรงกระบือ  เต็มกรอบหน้าบันปราสาทกระจับ



ปราสาทดำเรย Prasat Damrei เป็นปราสาทอิฐขนาดเล็ก ปรางค์ประธานเดี่ยวๆบนฐานสูง ทั้งสี่มุมประดับด้วยช้าง ฮินดูเชื่อว่าโลกนี้ค้ำด้วยช้าง มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ทิศ มีสิงห์ประดับที่บันไดทางขึ้น 

ปราสาทหลังเล็กบนฐานเตี้ยๆ ที่ประดับมุมด้วยช้างทรงเครื่องงดงาม

ช้างยืนทรงเครื่องงดงาม


ปราสาทบึงคณา Prasat Boeng Khna เป็นปราสาทหินทรายขนาดเล็ก พังจนเหลือแต่ฐาน ปราสาทสร้างใกล้กับบึงน้ำ ปัจจุบันตื้นเขินแล้ว พื้นที่โดยรอบบึงน้ำมีการสลักหินทรายเป็นเทพต่างๆ และสัตว์หลายชนิด
 
ปราสาทหินทรายขนาดเล็ก เหลือแต่ฐาน

บริเวณโดยรอบมีการจำหลักเทพต่างๆที่ริมตลิ่ง



ปราสาทบันทายปีจ้วน Prasat Banteay Pir Chuan บันทายหมายถึงป้อมค่าย ปีหมายถึงสอง คือมีกำแพงล้อมป้อมค่ายสองชั้น ปรางค์ประธานสร้างจากศิลาแลง ภายในมีฐานรูปหงส์สลักจากหินทรายงดงาม มีบรรณาลัยอิฐอีกสองหลังด้านซ้ายและขวา กำลังบูรณะขณะที่ผมไป ยังพอให้เห็นหน้าบันและทับหลังหินทรายบ้างบางองค์ ล้อมด้วยโคปุระสองชั้น กำแพงโคปุระชั้นนอกเป็นศิลาแลง เสาโคปุระชั้นในสลักเป็นจารึกเต็มทุกเสา เป็นอีกปราสาทที่ไม่ควรพลาด 
ซุ้มโคปุระชั้นนอกปราสาทบันทายปีจ้วน

ปราสาทประธานเป็นศิลาแลง  บรรณาลัยด้านซ้ายมือก่อด้วยอิฐ ประดับกรอบประตูและทับหลังด้วยหินทราย

เสาโคปุระชั้นในบันทึกข้อความไว้ทุกต้น

ฐานโยนีขนาดใหญ่จำหลักเป็นรูปหงส์

ปรางค์ประธานก่อด้วยแลง


 เกาะแกร์จะเป็นเมืองเอกเทศที่มีศิลปะของตนเอง ส่วนหนึ่งได้จากการดัดแปลงศิลปะในยุคก่อนหน้า ได้แก่ ศิลปะพะโค ศิลปะบาเค็ง ลักษณะศิลปะแบบเกาะแกร์เน้นความใหญ่โต ศิวลึงค์มีขนาดสูงใหญ่ รูปปั้นเทพเจ้าใหญ่โตตามขนาดของอาคารประธาน การนุ่งผ้านุ่งของชายมีการพลิกชายสมปักพับจีบออกมาคลุมหน้าท้องเป็นครึ่งวงกลมและปล่อยชักพกชายผ้าเป็นรูปหางปลา 1-2 ชั้นไว้ด้านหน้า ส่วนผ้านุ่งสตรีก็มีการดึงชายสมปักออกมาเป็นครึ่งวงกลมที่หน้าท้องเช่นกัน แต่ชักพกชายผ้าเบี่ยงไปทางขวาเป็นรูปสามเหลี่ยม กรอบเสาประตูบางที่จำหลักลายคล้ายกับที่พบในปราสาทพนมรุ้งแสดงถึงอิทธิพลที่ส่งมาถึง 

 ลักษณะเครื่องบนหลังคา เป็นหลังคาที่วางคานไม้ ตีระแนงและมุงกระเบื้องดินเผา ส่วนกรอบปิดหน้าหลังหลังคาเป็นหินทรายแกะลายเลียนแบบหลังคาไม้ ทำให้เห็นหน้าบันเป็นกรอบสามเหลี่ยม ตีฝักเพกาประดับกรอบและต่อชายด้วยตัวเหงา หน้าบันจำหลักรูปเทพขยายเต็มกรอบ ใต้หน้าบันเป็นทับหลัง ภาพบุคคลประธานสลักเต็มความสูงของกรอบทับหลัง ท่อนมาลัยปลายม้วนขึ้น เหนือท่อนมาลัยแกะเป็นกนกใบไม้ และด้านล่างเป็นก้านม้วนงอในลักษณะม้วนเข้ามีสมมาตรทั้งฝั่งซ้ายขวาโดย มีการเชื่อมก้านลายตรงกลาง เหนือทับหลังมีแถบลายเล็กๆแล่นตลอดความกว้าง 

แม้เกาะแกร์จะมีเวลากำเนิดขึ้นสั้นๆเพียง 16 ปี แต่งานแบบเกาะแกร์ก็ส่งอิทธิพลต่อเนื่องไปนับร้อยปีจนถึงยุคบาปวน ปราสาทปักษีจำกรงที่อยู่ข้างประตูนครธมถอดแบบปรางค์ปิรามิดปราสาทธมออกมา รวมถึงการจำหลักทับหลังงานแบบเกาะแกร์ด้วย

ทับหลังปราสาทกระจับ  เป็นพระพรหมทรงหงส์เต็มความสูงทับหลัง เหนือมาลัยเป็นกนกใบไม้ ใต้ท่อนมาลัยเป็นก้านขด  แถบลายคาดด้านบนทับหลังกระเทาะเหลือเพียงเล็กน้อย

กรอบหน้าบันปราสาทกระจับ เห็นช่องสอดไม้เป็นคานหลังคาสำหรับตีระแนงและวางกระเบื้องดินเผา  ภาพจำหลักวางเต็มพื้นที่แบบเกาะแกร์

ทับหลังปราสาทกรอฮอม  งานต้นแบบเกาะแกร์ เป็นพระกฤษณะในปางม้ารบอสูรเมื่อครั้งสร้างโลก  เสาประตูคู่นี้เขาบอกว่าเหมือนงานที่พนมรุ้ง


กว่าผมจะไปถึงเกาะแกร์ก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี ระยะทาง 120 กม.ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เกิน 60 กม. เนื่องจากเป็นทางลาดยางสองช่องจราจรที่ผ่านหมู่บ้านไปตลอดเส้นทาง เส้นทางบางช่วงเป็นหลุมบ่อ พาหนะที่ใช้จึงควรเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ผมได้ชื่อคนขับรถจาก tripadvisor แต่โควิดที่ผ่านมาสถานการณ์ต่างๆเปลี่ยนไป เขาส่งต่องานให้กับคนรู้จักอีกท่านรับงานแทน ผมเลยได้ใช้บริการเขาตลอดทริป 5 วัน 4 คืน เขามีทั้งรถโฟร์วิลเลกซัส และรถสามล้อ (ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์ดัดแปลง) เป็นคนที่มีอัธยาสัยดี พูดภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้เล็กน้อย During a day the trip from the airport to Koh Ker and Beng Melia temple; and other 3 days in Siem Reap  as well, I booked the transportation service with Mr. Ly Touvh (whatsapp: +855 12 934 627). The tuk tuk driver, not a tourist guide based in Siem Reap, own a 4x4 Lexus and a Tuk-tuk.

เกาะแกร์ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2023


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น